|
7 สัญญาณอันตราย "ต่อมทอนซิลอักเสบ" 7 สัญญาณอันตราย "ต่อมทอนซิลอักเสบ"บางคนที่ | |
7 สัญญาณอันตราย "ต่อมทอนซิลอักเสบ"บางคนที่ไปพบแพทย์เพราะมีอาการเจ็บคอ รู้สึกเหมือนภายในลำคอมีอาการอักเสบ แล้วถูกวินิจฉัยกลับมาว่าเป็น "ทอนซิลอักเสบ" อาจจะสงสัยว่าทำไมทอนซิลจึงอักเสบ มีอาการอะไรบ่งชี้ได้ว่ากำลังเป็นทอนซิลอักเสบ แตกต่างจากอาการเจ็บคอทั่วไปอย่างไร และวิธีรักษาต่อมทอนซิลอักเสบคืออะไร เรามาทำความรู้จักโรคนี้กันให้ชัดเจนขึ้นกันดีกว่า ต่อมทอนซิลอักเสบ (Tonsillitis) คืออะไร?“ต่อมทอนซิล” ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย จัดอยู่ในกลุ่มของเนื้อเยื่อประเภทน้ำเหลือง ภายในต่อมมีเม็ดเลือดขาวหลายชนิด หน้าที่หลัก คือ การจับและทำลายเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายผ่านทางเดินอาหาร หน้าที่รองลงมาคือ สร้างภูมิคุ้มกัน ซึ่งต่อมทอนซิลพบได้หลายตำแหน่ง ที่เห็นชัดจะอยู่ด้านข้างของช่องปาก มีชื่อเรียกว่า พาลาทีนทอนซิล (Palatine Tonsil) นอกจากนี้ยังพบได้บริเวณโคนลิ้น (Lingual Tonsil) และช่องหลังโพรงจมูก (Adenoid Tonsil) อาการของ "ต่อมทอนซิลอักเสบ"อาการ “ทอนซิลอักเสบ” เป็นอาการที่พบได้บ่อย เกิดขึ้นได้กับทุกช่วงอายุ แต่พบในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ เป็นการอักเสบของต่อมทอนซิลคู่ซ้ายและขวา หรือ Palatine Tonsil อยู่ข้างซ้ายและขวาของผนังในลำคอใกล้กับโคนลิ้น ในทางการแพทย์จัดให้โรคต่อมทอนซิลอักเสบอยู่รวมกับโรคคออักเสบ เนื่องจากจะมีอาการอักเสบเพราะการติดเชื้อที่ลำคอเสมอ สาเหตุของ "ต่อมทอนซิลอักเสบ"สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคต่อมทอนซิลอักเสบกว่าร้อยละ 70 - 80 มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัสเป็นส่วนใหญ่ และสาเหตุอื่น ได้แก่ การติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเชื้อทั้งหมดอาจอยู่ในน้ำลาย เสมหะ หรืออากาศที่หายใจเข้าไป การสัมผัสกับเชื้อที่ปนเปื้อนอยู่ตามจุดต่างๆ รอบตัว รวมไปถึงการรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำจากภาชนะเดียวกันกับผู้ติดเชื้อ ซึ่งทำให้เกิดการติดเชื้อที่ต่อมทอนซิลได้เช่นกัน สัญญาณอันตราย "ต่อมทอนซิลอักเสบ"
ในเด็กเล็กที่มีอาการทอนซิลอักเสบอาจไม่สามารถอธิบายได้ว่ามีอาการอย่างไร โดยผู้ปกครองอาจสังเกตจากสัญญาณบ่งบอกต่อไปนี้ น้ำลายไหล มีสาเหตุจากการกลืนได้ลำบากหรือกลืนแล้วรู้สึกเจ็บ ไม่ยอมรับประทานอาหาร และงอแงผิดปกติ การรักษา "ต่อมทอนซิลอักเสบ"ทอนซิลอักเสบส่วนใหญ่เกิดจากไวรัส ซึ่งจะรักษาให้หายได้ภายใน 7-10 วัน โดยไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ แต่ดีขึ้นได้ด้วยการดูแลรักษาตัวเอง ส่วนการรักษาการอักเสบของต่อมทอนซิล ที่เกิดจากแบคทีเรียนั้นใช้เวลานานกว่า และอาจต้องใช้วิธีการรักษาทางแพทย์ ได้แก่ การรับประทานยาปฏิชีวนะ และการผ่าตัดในกรณีที่มีภาวะแทรกซ้อน การดูแลรักษาตนเอง หลังเป็น "ต่อมทอนซิลอักเสบ"
ทั้งนี้หากพบว่ามีอาการดังกล่าวและรู้สึกว่าไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน ควรไปพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจรักษา | |
ผู้ตั้งกระทู้ หัวใจ :: วันที่ลงประกาศ 2022-11-18 09:55:06 IP : 49.230.127.28 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (4406278) | |
ผู้แสดงความคิดเห็น 1112 วันที่ตอบ 2022-12-18 15:09:59 IP : 49.230.126.58 |
ความคิดเห็นที่ 2 (4406312) | |
ผู้แสดงความคิดเห็น 1112 วันที่ตอบ 2022-12-18 15:18:32 IP : 49.230.126.58 |
ความคิดเห็นที่ 3 (4406403) | |
ผู้แสดงความคิดเห็น 1112 วันที่ตอบ 2022-12-18 16:18:40 IP : 49.230.126.58 |
ความคิดเห็นที่ 4 (4406404) | |
ผู้แสดงความคิดเห็น 1112 วันที่ตอบ 2022-12-18 16:18:44 IP : 49.230.126.58 |
ความคิดเห็นที่ 5 (4406416) | |
ผู้แสดงความคิดเห็น 1112 วันที่ตอบ 2022-12-18 16:22:57 IP : 49.230.126.58 |
ความคิดเห็นที่ 6 (4406434) | |
ผู้แสดงความคิดเห็น 1112 วันที่ตอบ 2022-12-18 16:28:02 IP : 49.230.126.58 |
ความคิดเห็นที่ 7 (4406458) | |
ผู้แสดงความคิดเห็น 1112 วันที่ตอบ 2022-12-18 16:32:44 IP : 49.230.126.58 |
ความคิดเห็นที่ 8 (4406488) | |
ผู้แสดงความคิดเห็น 1112 วันที่ตอบ 2022-12-18 16:38:25 IP : 49.230.126.58 |
ความคิดเห็นที่ 9 (4406506) | |
ผู้แสดงความคิดเห็น 1112 วันที่ตอบ 2022-12-18 16:43:08 IP : 49.230.126.58 |
ความคิดเห็นที่ 10 (4406518) | |
ผู้แสดงความคิดเห็น 1112 วันที่ตอบ 2022-12-18 16:46:37 IP : 49.230.126.58 |
ความคิดเห็นที่ 11 (4406535) | |
ผู้แสดงความคิดเห็น 1112 วันที่ตอบ 2022-12-18 16:50:27 IP : 49.230.126.58 |
[1] |
Copyright © 2021 All Rights Reserved. |
Visitors : 798136 |